วิธีแต่งห้องสไตล์ลอฟท์ (Loft) แต่งแบบไหนให้สวยโดนใจ

สไตล์ลอฟท์ (Loft) เป็นการตกแต่งที่ดูดิบ เท่ และมีเสน่ห์ โดยมีที่มาจากอาคารโรงงานในย่านบรูคลินของนิวยอร์กที่เลิกใช้หลังยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 เชื่อว่าหลายๆ คนคนชอบห้องสไตล์นี้กันไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะใครที่ต้องการสไตล์ห้องเท่ๆ ดูมีกิมมิค กลิ่นอายร็อคๆ และการแต่งห้องสไตล์ลอฟท์ก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินความสามารถ หากคุณคุณมีความเข้าใจในองค์ประกอบต่างๆ ที่เป็นหัวใจของการตกแต่งสไตล์นี้ ซึ่งในวันนี้เราก็จะมาแนะนำถึงวิธีการแต่งห้องสไตล์ลอฟท์กันว่ามีวิธีการแต่งอย่างไรบ้าง

หัวใจสำคัญการตกแต่งห้องสไตล์ลอฟท์ (Loft)

Loft หมายถึงการตกแต่งที่ให้ความรู้สึกแบบ ‘โกดัง’ (Warehouse) มาจากในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม ในตอนนั้นจะนิยมองค์ประกอบด้วยจำพวกอิฐและปูน รวมถึงเหล็ก โครงสร้างจะค่อนข้างดิบและหยาบ เมื่อต้องทำให้โรงงานกลายเป็นที่พักอาศัย จึงให้การตกแต่งที่ออกมาดูดิบและเปิดเปลือย ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัณของการตกแต่งสไตล์ Loft ด้วยการจัดฟังก์ชั่นบ้านที่แตกต่าง เพราะจะไม่มีการแบ่งสัดส่วนที่ชัดเจน มีอิสระในการตกแต่งมาก ทำให้ Loft กลายเป็นอีกหนึ่งการออกแบบที่ได้รับความนิยมจนถึงปัจจุบัน จนเกิดการตกแต่งแบบ Loft ในแบบต่างๆ

1. พื้นและเพดานที่เปิดเปลือย

ความเท่ที่เป็นหัวใจของการตกแต่งสไตล์ลอฟท์ (Loft) คือพื้นปูนขัดมัน หรือพื้นไม้ที่สว่าง รวมทั้งงานเพดานแบบเปลือยฝ้าที่ให้ความรู้สึกโล่งกว้าง อีกซึ่งสิ่งที่สำคัญของเพดานเปลือยฝ้าในการตกแต่งสไตล์นี้คือ การเดินท่อร้อยสายไฟที่ดูเนี้ยบ โดยอาจเลือกใช้เป็นท่อโลหะ ท่อพีวีซี หรือท่อ HDPE ก็ได้ตามงบที่มี ส่วนใหญ่มักใช้เป็นวัสดุสีดำเพื่อคลุมโทนให้ดูดิบ เท่ และเข้ากับผนังอิฐหรือปูนเปลือย

2. งานผนังเป็นปูนเปลือยหรืออิฐ

ดังที่ได้ย้ำไปแล้วว่าในการตกแต่งสไตล์ลอฟท์ (Loft) นิยมองค์ประกอบด้วยจำพวกอิฐและปูน ทำให้งานผนังมักจะใช้เป็นผนังปูนเปลือย งานอิฐ อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือผสมทั้งสองอย่างเข้าด้วยกัน แล้วแต่การออกแบบ หากอยากได้ลุคดิบ แต่อบอุ่น ลองออกแบบผนังในสไตล์อิฐผสมไม้ก็ยังได้ เพราะก็ดูมีสไตล์และดูเท่ดีไปอีกแบบ 

3. ไร้ผนังกั้นห้อง เน้นพื้นที่ให้โล่ง หน้าต่างกว้าง

นอกจากนี้ห้องสไตล์ลอฟท์ยังนิยมใช้แปลนห้องแบบ Open เพดานสูง หน้าต่างใหญ่และกว้าง ได้แสงธรรมชาติ ไร้ผนังกั้นห้อง หากจะกั้นพื้นที่ให้เป็นสัดส่วนก็มักจะไม่ใช้การกั้นในลักษณะกั้นถึงเพดาน แต่เป็นการแบ่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ หรือที่กั้นเตี้ยๆ แบบโครงเหล็ก หรือโครงไม้ แล้วแต่การตกแต่ง โดยรวมแล้วพื้นที่จะโล่งกว้าง ให้ความรู้สึกโปร่งและไม่อึดอัด พร้อมจัดสัดส่วนพื้นที่ใช้สอยต่างๆ ให้ลงตัวตามฟังก์ชั่นที่ตัวเราเองต้องการใช้งานด้วยของตกแต่ง 

4. มิกซ์ผสมเหล็ก ไม้ หนัง อิฐ ปูน

สไตล์ Loft นั้นไม่จำเป็นต้องจำกัดอยู่ในกรอบของอิฐกับปูน แต่ยังสามารถมิกซ์ผสมรวมกันกับเหล็ก เฟอร์นิเจอร์ไม้ หรือของตกแต่งที่เป็นวัสดุไม้ เหล็ก หรือหนังได้อย่างลงตัว จะใช้เฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัวที่สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก มากกว่าเฟอร์นิเจอร์แบบบิวด์อิน (Build-in) เพราะจะได้ปรับตำแหน่งของเฟอร์นิเจอร์ได้ตลอดเวลา เน้นการใช้งานพื้นที่ตามประโยชน์ใช้สอยที่มีให้คุ้มค่าที่สุด การตกแต่งไม่ว่าจะด้วยอิฐ ปูน หรือไม้นั้น ไม่จำเป็นต้องมีการเก็บรายละเอียดให้ดูเนี้ยบสวยงาม แต่เน้นการโชว์พื้นผิววัสดุเหล่านั้นจริงๆ แต่ละวัสดุก็จะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน เช่น เฟอร์นิเจอร์ไม้ หรือวัสดุไม้ ก็จะให้ความรู้สึกสบายตาสบายใจและอบอุ่นมากขึ้น ปูนกับอิฐให้ความรู้สึกดิบผสมกับความเยือกเย็น เหล็กและหนังจะทำให้รู้สึกเท่ และโดนเด่น การเลือกวัสดุแต่ละชิ้นแล้วนำมามิกซ์กันให้เป็นห้องในสไตล์คุณนั้นสามาารถทำได้ไม่ยากเลย

5. ตกแต่งด้วยการแขวน

เฟอร์นิเจอร์ และพร็อพตกแต่ง ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของการแต่งห้องสไตล์ลอฟท์ โดยการแต่งห้องสไตล์นี้มักเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ หรือของตกแต่งที่เป็นวัสดุเหล็ก ไม่ว่าจะเป็นโคมไฟ เก้าอี้ โต๊ะ ชั้นวางของ และอื่นๆ ผสมรวมกันกับเฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งที่เป็นวัสดุไม้อย่างลงตัว โดยจะเน้นการแขวนสิ่งต่างๆ ไว้กับเพดานหรือผนัง เช่น หลอดไฟ ต้นไม้ เปลนอน เป็นต้น

หากคุณสามารถทำทั้งตามทั้ง 5 ข้อนี้ประกอบกันได้ ห้องของคุณก็จะออกมาเป็นสไตล์ลอฟท์ (Loft) ที่ดูเท่ ดิบ และน่าอยู่อาศัยได้อย่างแน่นอน แนะนำว่าก่อนทำการตกแต่งลองหาภาพห้องที่ชอบ หรือลองวางแผนการตกแต่งมาไว้ก่อนก็จะช่วยให้คุณตกแต่งห้องได้ง่าย และไม่เสียเวลามากอีกด้วย

ถ้าคุณชื่นชอบเฟอร์นิเจอร์ไม้สัก และอยากเพิ่มเฟอร์นิเจอร์ไม้เข้าในการตกแต่งภายในแบบ Modern Loft อย่าลืมลองเยี่ยมชมแคทตาล็อคเก้าอี้คุณภาพเยี่ยมจากเรา Taweesak Furniture นะคะ เราทำเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นอย่างใส่ใจ และรู้จริงเรื่องเฟอร์นิเจอร์ไม้สัก