8 เทคนิคเลือกซื้อชุดรับแขกให้พร้อมแก่การต้อนรับผู้มาเยือน

Last updated: 11 ธ.ค. 2567  |  124 จำนวนผู้เข้าชม  | 

8 เทคนิคเลือกซื้อชุดรับแขกให้พร้อมแก่การต้อนรับผู้มาเยือน

ห้องรับแขกคือความประทับใจแรกที่ผู้มาเยือนจะได้สัมผัสเมื่อก้าวเข้าสู่ตัวบ้าน อีกทั้งยังเป็นมุมพักผ่อนที่คนในครอบครัวจะได้ใช้เวลาร่วมกัน การเลือกเฟอร์นิเจอร์ในห้องนี้จึงต้องคำนึงถึงทั้งความสวยงามและฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การใช้งาน เพื่อให้ห้องรับแขกมีบรรยากาศที่อบอุ่น ผ่อนคลาย รองรับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยได้อย่างดี วันนี้เราจะขอมาแนะนำเทคนิคง่ายๆ ในการเลือกซื้อชุดรับแขกว่าควรจะเลือกอย่างไร และมีองค์ประกอบใดที่ต้องนำมาพิจารณาบ้าง

1. พอดีกับขนาดของห้อง

 

 

การเลือกชุดโต๊ะรับแขกควรคำนึงถึงขนาดของพื้นที่เป็นอันดับแรก โดยเฉพาะบ้านที่มีพื้นที่จำกัดหรือเป็นคอนโด อพาร์ตเมนต์ ควรหลีกเลี่ยงชุดรับแขกที่ใหญ่เกินไป เพราะจะทำให้ห้องดูคับแคบ วิธีง่ายๆ ให้เริ่มจากการวัดขนาดความยาวและความกว้างของห้อง พื้นที่หน้าต่าง ประตู รวมถึงตำแหน่งที่จะวางเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ และควรเผื่อระยะห่าง ดังนี้

  • เว้นพื้นที่รอบๆ ชุดโต๊ะเก้าอี้รับแขกอย่างน้อย 20 นิ้ว เพื่อให้เดินสะดวก หากวางติดกำแพง ควรเว้นระยะห่างจากกำแพงประมาณ 2 นิ้ว

  • กะระยะห่างระหว่างเก้าอี้กับโต๊ะของชุดรับแขกประมาณ 12 -16 นิ้ว จะทำให้นั่งสบาย เข่าไม่ชนกับโต๊ะ

  • ในกรณีที่มีโทรทัศน์ในห้องด้วย ควรเว้นระยะห่างของชุดรับแขกกับโทรทัศน์ โดยคำนึงถึงขนาดของจอเป็นหลัก ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 1-3 เมตร

2. เข้ากับสไตล์การตกแต่ง

 

 

ชุดรับแขกถือเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ที่ส่งผลต่อภาพรวมของห้อง เพราะฉะนั้นหากเป็นบ้านใหม่ ควรกำหนดสไตล์ที่อยากได้และเลือกซื้อชุดรับแขกก่อน จากนั้นค่อยเพิ่มของตกแต่งอื่นๆ ตามมาให้เข้ากัน เช่น พรม ผ้าม่าน ชั้นวางของ ฯลฯแต่หากเป็นการซื้อชุดรับแขกใหม่ในบ้านเดิมที่อาศัยอยู่ ก็ต้องเลือกให้เข้ากับสไตล์ของห้องเดิมเป็นหลัก ตัวอย่างเช่น

  • ห้องสไตล์โมเดิร์น ควรเลือกชุดรับแขกไม้โมเดิร์นที่มีดีไซน์เรียบง่ายแต่ดูทันสมัย เพิ่มลูกเล่นด้วยการออกแบบชิ้นไม้บริเวณที่วางแขนหรือพนักพิงให้ดูมีความน่าสนใจมากขึ้น

  • ห้องสไตล์สแกนดิเนเวียน ควรเลือกชุดรับแขกมินิมอลที่เน้นความน้อยแต่มาก ทำจากวัสุดธรรมชาติ เช่น ไม้สีอ่อน เบาะผ้าลินิน ดีไซน์ดูโปร่งเบา ไม่หนาทึบเกินไป

  • สไตล์หรูหราคลาสสิก ควรเลือกชุดรับแขกไม้สักแกะสลักที่ได้รับการขัดเงา และสลักลวดลายลงอย่างประณีต ผสมกับโทนสีเข้มที่ช่วยเสริมให้ห้องดูหรูหรามีระดับ

ชุดรับแขกไม้สักแกะลายช้าง (อ่านรายละเอียดสินค้า)

 

3. โทนสีช่วยสร้างบรรยากาศ

 

 

สีของเฟอร์นิเจอร์ก็มีบทบาทสำคัญในการสร้างบรรยากาศให้กับห้องรับแขกด้วยเหมือนกัน ถ้าอยากให้ห้องดูกว้างและสว่างขึ้น ควรเลือกชุดรับแขกไม้สีอ่อนหรือโซฟาไม้รับแขกที่มาพร้อมเบาะสีครีม เบจ เทาอ่อน ส่วนชุดรับแขกไม้สีกลางๆ และผ้าสีเอิร์ธโทน เช่น สีเขียว น้ำตาล หรือสีส้มอิฐ จะให้ความรู้สึกผ่อนคลาย สบายตา และช่วยให้บรรยากาศในห้องดูอบอุ่นเป็นธรรมชาติ ในขณะที่ไม้สีเข้มจะให้ความรู้สึกสงบ สุขุมหนักแน่น แต่ก็แฝงด้วยความอบอุ่น เหมาะสำหรับห้องที่มีขนาดใหญ่

อย่างไรก็ตามเราไม่จำเป็นต้องเลือกสีให้กลมกลืนไปในโทนเดียวกันทั้งหมดก็ได้ เพราะการเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีสีตัดกับสีของผนัง จะทำให้เฟอร์นิเจอร์นั้นโดดเด่นขึ้นและสร้างจุดสนใจในห้อง เช่น หากผนังห้องเป็นสีอ่อน การเลือกชุดรับแขกไม้สักโมเดิร์นสีเข้ม จะช่วยให้ห้องดูสมดุล มีมิติมากขึ้น และทำให้แขกรู้สึกถึงการต้อนรับที่อบอุ่นเป็นกันเอง

 

4. ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้งาน

 

 

การเลือกชุดรับแขกควรคำนึงถึงฟังก์ชันการใช้งานที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ หรือกิจกรรมที่ทำ เช่น บางบ้านใช้เป็นห้องนั่งเล่นมากกว่ารับแขก ชอบมานั่งกินขนม ดูทีวี นอนเอกเขนก ชวนเพื่อนมาเล่นเกม ก็ควรเลือกชุดรับแขกที่มีความยืดหยุ่น ใช้งานได้หลากหลาย นั่งได้ นอนได้ เน้นความสบาย แต่ถ้าบ้านไหนมีสัตว์เลี้ยงและเด็กๆ ที่กำลังอยู่ในวัยซุกซน ก็ควรเลือกชุดรับแขกที่เน้นความทนทานและทำความสะอาดง่าย หลีกเลี่ยงพวกผ้ากำมะหยี่ หรือวัสดุที่ทำจากหนัง หรือหนังกลับ เพราะจะเสียหายได้ง่าย

ชุดรับแขกสกีไม้สักแท้ (อ่านรายละเอียดสินค้า)


5. ขนาดของโต๊ะรับแขก

 

 

อีกหนึ่งองค์ประกอบของชุดรับแขกคือ โต๊ะกลาง หรือ โต๊ะกาแฟ ซึ่งรูปทรงของโต๊ะก็จะส่งผลต่อบรรยากาศที่แตกต่างกัน หากเลือกโต๊ะทรงกลม หรือ ทรงรี จะทำให้ห้องดูมีความนุ่มนวล ไม่มีเหลี่ยมคมที่ตัดกับเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ในห้อง และยังช่วยลดอุบัติเหตุที่เกิดจากการชนมุมโต๊ะได้อีกด้วย แต่ถ้าเลือกโต๊ะทรงเหลี่ยม ห้องจะดูเป็นสัดส่วน มีพื้นที่หน้าโต๊ะเพิ่มขึ้น ยิ่งถ้าเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าก็จะหลอกตาให้ห้องดูกว้างขึ้นด้วย

นอกจากนี้ก็ต้องไม่ลืมที่จะคำนึงถึงการใช้งานเช่นกัน หากจุดประสงค์หลักคือการต้อนรับแขก ก็ไม่จำเป็นต้องเลือกโต๊ะรับแขกไม้ที่มีขนาดใหญ่มากให้เปลืองพื้นที่ แค่วางแก้วน้ำและขนมนิดหน่อยได้ก็พอ หรืออาจจะเลือกโต๊ะที่มีความสูงมากหน่อยเพื่อให้สามารถหยิบแก้วได้สะดวก แต่หากใช้เป็นห้องนั่งเล่นแบบอเนกประสงค์ ก็อาจจะเลือกโต๊ะรับแขกไม้สักที่มีขนาดใหญ่หน่อย จะได้มีพื้นที่วางของมากขึ้น และทำกิจกรรมต่างๆ ได้ด้วย 

ชุดรับแขกเรียบหนา (อ่านรายละเอียดสินค้า)


6. เพิ่มฟังก์ชันที่เก็บของ

 

เพื่อให้ห้องรับแขกดูสะอาดตาและเป็นระเบียบมากขึ้น อาจจะเลือกเก้าอี้ที่มีลิ้นชักอยู่ด้านล่าง หรือโต๊ะกลางแบบที่มีชั้นวางของหรือลิ้นชัก เอาไว้เก็บของใช้จุกจิก เช่น รีโมตคอนโทรล นิตยสาร เกม อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ หรือแม้แต่ของเล่นเด็ก จะได้หยิบใช้สะดวก ไม่ต้องเสียเวลาหา อีกทั้งยังช่วยประหยัดพื้นที่และเงินในกระเป๋า เพราะไม่จำเป็นต้องหาซื้อชั้นวางของมาเพิ่มด้วย


7. งบประมาณและความทนทาน

 

 

นอกจากรูปลักษณ์ที่สวยงาม อย่าลืมให้ความสำคัญกับโครงสร้างภายในโดยเฉพาะวัสดุที่นำมาใช้ หากมีความแข็งแรงทนทานจะช่วยยืดอายุชุดรับแขกให้ใช้งานได้นานขึ้น ไม่ต้องเสียเงินเปลี่ยนใหม่บ่อยๆ ตัวอย่างเช่น ชุดรับแขกไม้สัก ราคาอาจจะสูงหน่อย แต่แข็งแรง ทนทานกว่าชุดรับแขกไม้ราคาถูกที่ทำมาจากไม้อัดหรือไม้ MDF มาก เพราะไม้พวกนี้จะบวมน้ำง่าย รับน้ำหนักมากก็ไม่ได้ ยังไม่รวมปัญหาปลวก มด และแมลงต่างๆ ที่กัดกินเนื้อไม้ แต่ไม้สักแท้เมื่อผ่านการอบแห้งแล้วจะคงรูปได้ดี มีการยืดหรือหดตัวน้อย ทนต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ไม่บวม หรือผุพังง่าย อายุการใช้งานยาวนานไม่ต่ำกว่า 10 ปี แถมพอใช้ไปนานๆ ชุดรับแขกไม้สักเก่าจะยิ่งสวยและมีลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ตามอายุการใช้งาน เทียบกันแล้วถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ากว่าในระยะยาวมาก 

ชุดรับแขกไม้สักแท้ (อ่านรายละเอียดสินค้า)


8. ดูแลรักษาง่าย

 

ถ้าแขกไปใครมาเห็นห้องรับแขกสกปรกคงจะดูไม่ดี เพราะฉะนั้นก็ควรจะเลือกชุดรับแขกที่ทั้งสวยและทำความสะอาดง่าย ยิ่งถ้าชอบเอาเครื่องดื่มหรือขนมมากินยิ่งต้องระวัง เพราะจะมีโอกาสเลอะได้ง่าย ดังนั้นหากเลือกเป็นชุดโซฟาไม้รับแขกก็ควรจะเลือกชนิดที่สามารถถอดปลอกออกไปซักได้ แต่ถ้าไม่อยากทำความสะอาดบ่อยๆ ก็ควรเลือกชุดรับแขกไม้สักที่มีผิวสัมผัสเรียบเนียน จะช่วยลดการสะสมของสิ่งสกปรก รวมถึงไรฝุ่น สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่ายเพียงแค่ใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เท่านั้น

 

 

สำหรับใครที่สนใจและกำลังมองหาชุดโต๊ะรับแขกไม้สักสวยๆ เอาไว้แต่งห้อง Taweesak Furniture มีตัวเลือกมากมายที่ตอบโจทย์ทุกสไตล์การแต่งห้องและการใช้งาน อีกทั้งยังมีบริการ Customization ที่ลูกค้าสามารถสั่งทำตามรูปแบบที่ต้องการได้ โดยมีทีมดีไซเนอร์มืออาชีพที่พร้อมให้คำปรึกษา แค่ส่งรูปมา เราจะประเมินราคา จัดทำใบเสนอราคา และสร้างแบบ 3D ให้คุณเห็นภาพก่อนเริ่มผลิตจริง สามารถดูรีวิวจากลูกค้าของเราก่อนตัดสินใจได้เลย หรือหากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถโทรเข้ามาได้ที่ เบอร์โทร. 096-679-5556 หรือแอดไลน์ Line@ : @taweesakwood มาได้เลย



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว นโยบายคุกกี้